วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

92 วันกับชีวิตภายใต้สภาวะร่างกายซีกขวาชาและอ่อนแรง

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ 92 วันแล้วที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สภาวะร่างกายซีกขวาชาและอ่อนแรงจากหลอดเลือดในสมองแตก แต่เป็น 92 วันที่ผมต้องเผชิญอะไรมากมายทั้งสภาวะโรคซึมเศร้า, ความเครียดที่ร่างกายซีกขวาใช้การไม่ได้, การพยายามลุกขึ้นเดินการใช้มือขวาจับช้อนกินข้าว, การเรียนรู้หาข้อมูลของโรคนี้, ความพยายามออกกำลังกายเพื่อฟี้นฟูร่างกายให้กลับคืนมา แล้วภายในระยะเวลาเพียงสองเดือนที่ร่างกายผมกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว

จนถึงวันนี้ที่ร่างกายผมยังไม่กลับมาเป็นปกติทั้งหมดก็ตาม...แต่ผมก็เริ่มใช้ชีวิตได้ตามปกติมากยิ่งขึ้น...จนสามารถที่จะอยู่คนเดียวได้บ้างแล้ว ถึงแม้ว่ายังคงมีอาการที่ต้องรอการฟื้นฟูและใช้ระยะเวลานานกว่าจะหาย หรือท้ายที่สุดอาการเหล่านั้นอาจจะหลงเหลืออยู่ไปตลอดชีวิตนี้ก็เป็นไปได้...นี่ก็ความเห็นของคุณหมอแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู...

...อาการที่ยังคงหลงเหลืออยู่...
อาการชาตามผิวหนัง...ถีงแม้ว่าอาการชาจะค่อยๆ หายไปบ้าง แต่ก็ยังหลงเหลืออยู่มาก วันก่อนใช้มือไปจับถาดขนมหม้อแกงซึ่งปกติจะเป็นถาดเย็นแล้ว...แต่บังเอิญว่าถาดนี้ยังร้อนอยู่พอนิ้วมือไปโดนก็รู้สึก "เจ็บจี๊ดๆ" ที่นิ้ว แทนที่จะรู้สึกว่า "ร้อน" ทำให้ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้ร่างกายด้านขวาไปโดนของร้อนๆ หรือโดนไฟ หรืออะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย

อาการพูดไม่ชัด...ก็ยังต้องพยายามฝึกพูดต่อไป แต่ก็ต้องระวังไม่ให้พูดมากจนเกินไป

อาการความจำ...ก็ยังต้องค่อยๆ ฟื้นฟูให้สมองมีพื้นที่ในการจดจำต่อไป

ผมก็เชื่อว่า "ผมสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับร่างกายที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข เพราะผมยังสามารถใช้ร่างกายทำงานเพื่อดำรงชีพได้แล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ"

1 ความคิดเห็น:

  1. --ผ่านไปเพียงแค่ 92 วันเท่านั้น เพื่อนเรายังอาการดีขึ้นตั้งขนาดนี้ นับเป็นมหัศจรรย์ของชีวิต เท่าที่ฟังดูอาการถ้านั่งอยู่นิ่งๆ คงเหมือนสภาพคนปกติไม่ได้ป่วย แต่ถ้าเป็นคนทั่วๆไปที่ป่วยอย่างนี้ คงต้องใช้เวลาอีกเป็นปี หรือหลายปีจึงจะมีสภาพอย่างนี้ สามารถกลับมาดำรงชีพเพียงลำพังที่บ้านในป่า นับว่าสุดยอดเลยเพื่อน อย่างนี้ต้องตามมาดูของจริง

    --ทั้งหมดทั้งปวงย่อมเกิดจากความพยายามความตั้งมั้นของใจ ดั่งภาษิตที่ว่า

    มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา
    มนะสา เจ ปสันเนนะ ภาสติวา กโรติวา

    ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ
    ถ้าใจผ่องใส บุคคลจะพูดหรือทำก็ตาม ความสุขย่อมติดตามเขาไป เป็นเพราะเหตุนั้นเหมือนเงาตามตัวฉะนั้น

    ไม่ว่าคุณจะป่วยใข้ บาดเจ็บสาหัสขนาดใหน ขอเพียงใจ (จิต) คุณยังคงสู้อยู่ อาการบาดเจ็บนั้นย่อมอยู่ภายใต้การบังคับของใจ (จิต)

    ตอบลบ